คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คืออะไร

คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คืออะไร

ชื่อเต็มว่า คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือ “สกุลเงินดิจิทัล” เกิดจากการรวมศัพท์ 2 คำเข้าไว้ด้วยกัน คือ Cryptography (การเข้ารหัส) และ Currency (สกุลเงิน) ทางราชบัณฑิตยสภาจึงกำหนดศัพท์บัญญัติของคำนี้ไว้ว่า “สกุลเงินเข้ารหัส” เพราะการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของสกุลเงินนี้จะต้องผ่านบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีการเข้ารหัสไว้เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ คริปโตถือเป็น “สินทรัพย์ดิจิทัล” (Digital Asset) รูปแบบหนึ่ง

โดยคริปโตเคอร์เรนซีหรือ สินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ โดยใช้วิทยาการเข้ารหัสหรือรหัสลับ (Cryptography) ในการป้องกันและยืนยันธุรกรรม อีกทั้งยังใช้การเข้ารหัสเพื่อควบคุมการผลิตคริปโตบางประเภทอีกอีกด้วย

คริปโทเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่ง มีการเข้ารหัสวิ่งอยู่บนระบบที่เรียกว่า “บล็อกเชน” มีราคาในการซื้อขายแปรผันตามกลไกตลาดและความต้องการซื้อขาย

บล็อกเชน เกี่ยวอะไรกับ คริปโตเคอร์เรนซี ?

บล็อกเชนไม่ใช่คริปโทฯ แต่บล็อกเชนเป็นระบบที่คริปโทฯ ทำงานอยู่ อธิบายง่ายๆ คือ บล็อกเชน เป็นเครือข่ายการเก็บข้อมูลแบบหนึ่ง ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลชุดเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในแต่ละบล็อก (Block) ที่เชื่อมโยงกันบนเครือข่ายเหมือนกับห่วงโซ่ (Chain) ที่ถูกเรียกกันใน รูปแบบการเก็บและแชร์ข้อมูลแบบนี้ว่า Blockchain

คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คืออะไร

คริปโตเคอร์เรนซี มีกี่ประเภท?

1.       Centralized Exchange

2.       Currency

3.       Smart Contract

4.       DeFi

5.       Oracel

6.       Meme

7.       Game

1. คริปโตเคอร์เรนซี ประเภท Centralized Exchange

คือ ระบบแบบ Centralized หรือ การแลกเปลี่ยนผ่านส่วนกลาง การใช้คนกลาง หน่วยงาน หรือบริษัทเพื่อช่วยในการทำธุรกรรม ผู้ซื้อและผู้ขายต่างไว้วางใจให้คนกลางหรือบริษัทจัดการทรัพย์สินของตน ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งดำเนินการโดยองค์กรเพียงองค์กรเดียว ผู้ใช้งานของการแลกเปลี่ยนผ่านส่วนกลางจะฝากเงินโดยตรงกับผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน และผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนจะจัดการความปลอดภัยของกองทุนในการดำเนินงานของการค้า และอื่นๆ

ตัวอย่างเช่น เหรียญ ZMT ที่มีบริษัทตัวกลางอย่าง Zipmex , เหรียญ NEO และเหรียญ BNB ที่บริษัทตัวกลางเป็น Binance นั่นเอง

2. คริปโตเคอร์เรนซี ประเภท Currency

คือ เหรียญกลุ่ม Currency ที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อใช้สำหรับการแลกเปลี่ยน ซื้อ-ขายสินค้าแทนเงินตรา หรือสกุลเงิน (Fiat) โดยมีความแตกต่างจากเงินตราปัจจุบัน คือ ไม่ต้องอาศัยตัวกลางอย่างธนาคารกลางหรือหน่วยงานต่าง ๆ คริปโตกลุ่มนี้ คือพวก BTC ที่มีความปลอดภัยสูง มีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ และยังมีเหรียญอื่น ๆ เช่น BCH, LTC, DOT และ DAI เป็นต้น

3. คริปโตเคอร์เรนซี ประเภท Smart Contract

คือ สัญญาอัจฉริยะ หรือ Smart Contract เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดำเนินการอัตโนมัติ ซึ่งใช้ Blockchain สร้างเงื่อนไขขึ้นมา เมื่อมีการดำเนินการตรงตามเงื่อนไขที่ฝังอยู่ในสัญญา โปรแกรมจะดำเนินการเอง ซึ่ง Smart Contract จะมีส่วนช่วยกำจัดตัวกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมต่าง ช่วยให้เรวดเร็วขึ้น ทำให้สามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Dapp) รวมถึง DeFi ขึ้นบนเครือข่ายได้ เหรียญที่เป็น Smart Contract เช่น ETH, DOT และ VET

4. คริปโตเคอร์เรนซี ประเภท DeFi

คือ การทำธุรกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่ไม่มีตัวกลางอย่างสถาบันการเงินมารับรอง เหรียญที่จัดอยู่ในกลุ่ม DeFi สร้างขึ้นบนบล็อกเชนที่มี Smart contract อย่างเช่น Ethereum เหรียญพวกนี้จึงถูกจัดกลุ่มเป็น Token หรือเหรียญที่ไม่ได้มีบล็อกเชนเป็นของตัวเอง แต่สร้างขึ้นบนระบบ Blockchain ของแพลตฟอร์มอื่น ๆ ตัวอย่าง เหรียญ DeFi เช่น UNI, CAKE และ COMP โดยแต่ละเหรียญจะมีการใช้งานและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปและมักจะใช้ได้กับแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

5. คริปโตเคอร์เรนซี ประเภท Oracel

คือ สะพานเชื่อมระหว่างข้อมูลภายในบล็อกเชน (On-chain) กับข้อมูลภายนอกเครือข่าย (Off-chain) อย่างที่รู้กันว่าระบบ Blockchain และ Smart Contract ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของโลกภายนอกได้ Oracle จึงมีบทบาทที่สำคัญมากช่วยให้ Smart Contract สามารถดำเนินการเชื่อมกับข้อมูลภายนอก และเพื่อให้ Dapp หรือ DeFi นำข้อมูลต่าง ๆ ไปใช้ต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ ราคาสินทรัพย์ จำนวนผลโหวต ซึ่งเหรียญในกลุ่ม Oracle จะช่วยให้สามารถเข้าถึงบริการของ Oracle ได้ เช่น เหรียญ  LINK และ เหรียญ  BAND

6. คริปโตเคอร์เรนซี ประเภท Meme

คือ ถูกสร้างออกมา เพื่อการล้อเลียน เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น เหรียญกลุ่มนี้จะมีความผันผวนมาก หากต้องการเทรดควรศึกษาให้ดี และต้องมั่นใจว่ามีประสบการณ์มากพอ สามารถวิเคราะห์ และรู้จังหวะในการเทรดได้อย่างดีก่อน จึงจะสามารถทำกำไรได้

7. คริปโตเคอร์เรนซี ประเภท Game

คือ เหรียญเกมเป็นเหรียญของแพลตฟอร์มที่ให้บริการ Game ทำงานบนระบบบล็อกเชน ซึ่งผู้ที่พัฒนาจะอาศัยเทคโนโลยีนี้ในการออกแบบเกม และสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้เล่น โดยเหรียญเกมจะช่วยให้สามารถซื้อไอเท็มที่สำคัญต่างๆ ในเกมได้ รวมถึงสามารถนำไปแลกรางวัลได้ด้วย ตัวอย่างของเหรียญเกมได้แก่ ILV, SLP และ  MANA เป็นต้น แต่ควรศึกษาก่อนให้ดี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *